
หญิงอายุ 77 ปี ร้องถูกหลอกโอนเงินกว่า 10,000 บาท จ.พัทลุง
หญิงอายุ 77 ปี ชาวอำเภอตะโหมด จังหวัดพัทลุง เข้าแจ้งความกับตำรวจให้ดำเนินคดีกับชายอายุ 37 ปี ในฐานฉ้อโกง สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 31 สิงหาคมที่ผ่านมา ชายคนดังกล่าวและภรรยาได้มาหาเธอที่บ้าน พร้อมแนะนำตัวว่าชื่อ "บอล" และแสดงบัตรประจำตัวให้ดูด้วย
โดยนายบอลอ้างว่ารู้จักกับหลานชายของเธอ ที่ถูกจับคดียาเสพติดเมื่อกลางพฤษภาคมที่ผ่านมา และถูกศาลตัดสินจำคุก 6 ปี 3 เดือน นายบอล เล่าว่า ก่อนหน้านี้เขาอยู่ในเรือนจำกับหลานชายของยาย สนิทสนมกันมาก และเล่าเรื่องส่วนตัวของหลานชายให้ฟัง ซึ่งเรื่องที่เล่าก็เคยเกิดขึ้นจริง ทำให้ยายหลงเชื่อ คิดว่าชายคนนี้สนิทสนมกับหลานชายจริง ๆ หลังจากคุยกันสักพัก นายบอลอ้างว่าสามารถช่วยเหลือหลานออกจากเรือนจำมาได้ โดยถูกกฎหมาย และไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย เพราะเขารู้จักกับคนมีชื่อเสียงในพื้นที่ แต่จะต้องมีการติดกำไรอีเอ็มที่ข้อเท้า เพื่อให้เจ้าหน้าที่คอยติดตามพฤติกรรม และไม่สามารถออกจากบ้านพักเกินรัศมี 15 กิโลเมตร ยายได้ฟังแบบนี้ก็เชื่อใจตกปากรับคำ โดยนายบอลบอกว่า ครอบครัวจะต้องจ่ายเงินซื้อเครื่องดังกล่าว ในราคา 14,670 บาท หากซื้อแล้วก็สามารถออกจากเรือนจำได้ช่วงต้นเดือนกันยายน
ด้วยความรักและห่วงหลาน ประกอบกับหากออกจากเรือนจำ จะได้ช่วยดูแลแม่ที่พิการขาอ่อนแรง ส่วนยายก็อายุมากแล้ว อยากให้หลานมาอยู่ใกล้ ๆ จึงตัดสินใจปั่นจักรยานไปธนาคารที่อยู่ห่างจากบ้านประมาณ 2 กิโลเมตร เพื่อโอนเงินให้กับนายบอล แต่หลังจากโอนเงินไปแล้ววันรุ่งขึ้น นายบอลโทรศัพท์มาหาอ้างว่าเงินที่ให้ไปไม่พอ ต้องเพิ่มอีก 4,000 บาท ลูกสาวของเธอเริ่มเอะใจ จึงโทรศัพท์ไปสอบถามบุคคลที่นายบอลอ้างถึง ปรากฏว่าไม่มีส่วนรู้เห็น และทราบว่านายบอล มีพฤติกรรมหลอกลวงชาวบ้านหลายรายแล้ว แต่ก็ไม่สามารถติดต่อได้อีก จึงแจ้งความเพื่อดำเนินคดี
มิจฉาชีพหลอกตีสนิท ก่อนขโมยทรัพย์สิน จ.อุดรธานี
ที่จังหวัดอุดรธานี นางสมทรง แก้วเทพ อายุ 59 ปี เล่าว่า เมื่อวันที่ 1 กันยายนที่ผ่านมา เธอกำลังจะเดินทางกลับภูมิลำเนาที่จังหวัดบึงกาฬ ขณะที่กำลังรอซื้อตั๋วโดยสาร มีชายคนหนึ่งอายุประมาณ 45-50 ปี เข้ามาพูดคุย เป็นภาษาอีสาน อ้างว่าเป็นคนจังหวัดบึงกาฬเหมือนกัน แล้วพยายามตีสนิท และชักชวนซื้อตั๋วแบบที่นั่งคู่ เธอเห็นว่าเป็นคนบ้านเดียวกันคงไม่เป็นไร จึงตกลงโดยใช้ชื่อของเธอเป็นคนซื้อตั๋ว ระหว่างทางชายคนดังกล่าวชวนพูดคุยตลอด บอกชื่อนามสกุล และชื่อเล่น จนกระทั่งรถมาถึงขนส่งจังหวัดอุดรธานี
ชายคนดังกล่าวบอกว่าจะลงไปซื้อของฝากให้ครอบครัว พร้อมกับฝากกระเป๋าของเขา 1 ใบไว้กับเธอโดยบอกว่าห้ามเปิดเด็ดขาดเพราะมีของสำคัญ ส่วนเขาจะตามไปรับกระเป๋าคืนที่ขนส่งอำเภอศรีวิไล จังหวัดบึงกาฬ หลังจากชายคนดังกล่าวลงจากรถไปแล้ว เธอได้เปิดกระเป๋าของตัวเองดู กลับพบว่าส้อยคอทองคำน้ำหนัก 4 บาท พระเลี่ยมทอง และเงินสดกว่า 5,000 บาทหายไป รวมมูลค่าประมาณ 106,000 บาท เธอจึงเปิดกระเป๋าของชายคนดังกล่าวพบว่าภายในกระเป๋าเป็นกล่องเปล่า ไม่มีทรัพย์สินใด ๆ จึงรีบแจ้งบริษัทรถโดยสาร และเข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.เมืองอุดรธานี
นางสมทรง เชื่อว่าคนที่ขโมยทรัพย์สินของเธอ คือชายที่นั่งโดยสารมาด้วยกัน เพราะมีจังหวะหนึ่งชายคนนี้ทำทีขอยืมแป้งไปทา แต่เธอหากระเป๋าใส่แป้งไม่พบจึงลุกจากเก้าอี้ไปด้านหลังเพื่อค้นหา คาดว่าคนร้ายฉวยโอกาสนั้นก่อเหตุ นางสมทรงบอกว่าไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน จึงอยากฝากเป็นอุทาหารณ์ใครที่ต้องเดินทางไกลเพียงลำพัง อย่าไว้ใจคนแปลกใจหน้า มิเช่นนั้นอาจตกเป็นเหยื่อได้
"มีชื่อเสียง" - Google News
September 03, 2020 at 09:40AM
https://ift.tt/2Z0iVQC
ยายอายุ 77 ปี ถูกมิจฉาชีพหลอกโอนเงิน อ้างช่วยหลานออกจากเรือนจำได้ - ช่อง 7
"มีชื่อเสียง" - Google News
https://ift.tt/36UBHvx
No comments:
Post a Comment